9 งานวิจัยเจียวกู้หลานกับหัวใจและหลอดเลือด
เจียวกู้หลานป่าจากเชียงใหม่
บทความอ้างอิง งานวิจัยเจียวกู้หลานกับหัวใจและหลอดเลือด
เจียวกู้หลานป่าหรือเจียวกู้หลานจากธรรมชาติ
เพื่อให้การใช้เจียวกู้หลานป่าสมุนไพรจากเชียงใหม่ให้ได้ผลสูงสุด ขอนำเสนอบทความจากงานวิจัยของสถาบันสมุนไพรแห่งชาติ ที่ได้ใช้เจียวกู้หลานธรรมชาติหรือเจียวกู้หลานป่าเป็นหลักในการวิจัยจึงได้ผลออกมาตามที่ได้และได้เผยแพร่สู่สาธารณะทั่วๆ ไป
ไขมัน สารอาหารประเภทไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยกรดไขมันและกลีเซอรอล พบมากในไขมันจากพืช มันสัตว์ นม เนย ถั่ว กรดไขมันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1.1 กรดไขมันอิ่มตัว เป็นไขมันที่พบมากในเนื้อสัตว์ มันสัตว์ หนังสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง กุ้ง ปู นม และผลิตภัณฑ์จากนม ไขมันประเภทนี้ หากมีมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
1.2 กรดไขมันไม่อิ่มตัว เป็นไขมันที่พบมากในถั่ว เต้าหู้ เห็ด น้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม) ช่วยลดการดูดซึมไขมันอิ่มตัว ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน
ไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี สารอาหารประเภทไขมันช่วยให้อาหารมีรส กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ช่วยในการดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี และ เค ไขมันที่มีมากเกินความต้องการของร่างกายจะถูกสะสมเป็นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยป้องกันการกระทบกระเทือนของอวัยวะภายใน ป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกายไขมันในเลือดสูงหมายถึงร่างกายเรามีไขมันในกระแสเลือดสูง ไขมันที่สูงจะเป็น cholesterol หรือ Triglyceride ก็ได้ ไขมันสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคอัมพาต เนื่องจากไขมันสูงจะตกตะกอนที่ผิวของผนังหลอดเลือดที่เรียกว่าคราบไขมันหรือ Plaque ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดตีบ หรืออาจจะหลุดลอยไปอุดหลอดเลือดทำให้เกิดโรค
ค่าปกติของไขมันอยู่ระหว่าง 140 and 200 mg/d ทางการแพทย์จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับไขมัน Total Chloresterol และ LDL Choresterol และไขมัน HDL Cholesterol เนื่อวจากภาวะทั้งสองสามารถควบคุมโดยการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่การเกิดหลอดเลือดแข็งจะดกิดเร็วหากมีภาวะไขมันผิดปกติดังนี้
ค่าปกติของไขมันในเลือด (Total cholesterol levels)
ระดับที่ต้องการ: ต่ำกว่า 200 mg/dL
สูงปานกลาง: 200 - 239 mg/dL
สูง: มากกว่า 240 mg/dL
LDL cholesterol levels:
ระดับที่ต้องการสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีความเสี่ยงสูง: ต่ำกว่า 70 mg/dL
ระดับที่ต้องการ for people at risk of heart disease: ต่ำกว่า 100
ระดับที่ต้องการ: 100 - 129
สูงปานกลาง: 130 - 159
สูง: 160 - 189
HDL cholesterol levels:
ผลไม่ดี: ต่ำกว่า 40 mg/dL
ค่าที่ยอมรับได้: 40 - 59
ระดับที่ต้องการ: 60 หรือ สูงกว่า
Triglyceride levels:
ระดับที่ต้องการ: ต่ำกว่า 150 mg/dL
สูงปานกลาง: 150 - 199
สูง:สูงกว่า 200
ผู้ใหญ่ที่ค่าไขมันปกติควรจะตรวจซ้ำทุก 5 ปี หากไขมันในเลือดสูงควรตรวจซ้ำอีก 2-6 เดือน
LDL เป็นไขมันชนิดไม่ดี ชนิดที่เป็นปัญหาคือ อ็อกซิได LDL และ LDLชนิดเล็ก
เพราะว่าระดับ LDL ในเลือด มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมัน LDL ทำหน้าที่เป็นตัวนำโคเลสเตอรอลทั้งหลายออกจากตับเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อเซลล์เลือกใช้โคเลสเตอรอลที่ต้องการไปแล้ว โคเลสเตอรอลที่เหลืออยู่ในกระแสเลือดก็จะพอกเป็นตุ่มอยู่ที่ผนังของหลอด เลือดทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ นานไปตุ่มเหล่านี้ปริแตกออกทำให้มีลิ่มเลือดเข้ามาผสมโรงพอกจนอุดตันหลอด เลือด ผลตามมาคืออวัยวะสำคัญที่ต้องอาศัยเลือดจากหลอดเลือดเช่นหัวใจ สมอง ไต เกิดขาดเลือดไปเลี้ยง กลายเป็นโรคเช่น หัวใจขาดเลือด อัมพาตอัมพฤกษ์ ความดันเลือดสูง ไตวาย เป็นต้น
LDL มาจากไหน
อาหารที่เพิ่ม LDL แบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ อาหารจำพวกไขมันอิ่มตัว (saturated fat) หมายถึงไขมันจาก เนื้อสัตว์ต่างๆ ยกเว้นเนื้อปลา ไข่ นมโฮลมิลค์ เนย ชีส ไอศกรีม เค้ก คุ้กกี้ น้ำสลัดสำเร็จรูป พืชสกุลปาลม์เช่น น้ำมันปาลม์ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้นการเป็นไขมันอิ่มตัว เป็นคนละประเด็นกับการเป็นโคเลสเตอรอลหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นน้ำมันปาลม์ น้ำมันมะพร้าว ไม่ใช่โคเลสเตอรอล และไม่มีส่วนประกอบที่เป็นโคเลสเตอรอล เพราะพืชทุกชนิดไม่มีโคเลสเตอรอล แต่น้ำมันปาลม์และน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัว เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วก็มีผลเพิ่ม LDL ในเลือดเช่นเดียวกับไขมันอิ่มตัวจาก เนื้อ หมู ไก่ เช่นกัน เนื่องจากไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย กฎหมายจึงบังคับให้ฉลากอาหารบอกว่ามีไขมันอิ่มตัวเป็นส่วนประกอบอยู่ในอาหาร นั้นเท่าไร
อาหารจำพวกไขมันทรานส์ (trans fat) เป็นไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat)
เป็นไขมันชนิดหนึ่งโดยทั่วไป ไขมันไม่อิ่มตัว เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำ น้ำมันมะกอก เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่ในอุตสาหกรรมอาหารบางอย่างได้มีการเปลี่ยนเอาไขมันไม่อิ่มทั่วไปให้กลาย เป็นไขมันทรานส์ เพื่อให้มีคุณสมบัติแข็งเป็นไข จะได้เอาไปทำเนยเทียมหรือเอาไปเคลือบอาหารสำเร็จรูปได้ง่ายขึ้น อาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ได้แก่ ขนมอบ หรือเบเกอรีที่มีมาการีนเป็นส่วนประกอบ ครีมเทียม คอฟฟี่เมท อาหารอบ อาหารทอด ขนมกรุบกรอบต่างๆ เป็นต้นปัจจุบันนี้ในยุโรปและอเมริการมีกฎหมายบังคับให้บอกที่ฉลากว่าอาหารนั้นมีไข มันทรานส์อยู่เท่าใด แต่เมืองไทยยังไม่มีกฎหมายนี้ กฎหมายไทยบังคับให้บอกเฉพาะไขมันอิ่มตัว ดังนั้นเมื่ออ่านฉลากอาหารที่มีไขมันทรานส์จะไม่เจอคำเตือนใดๆเพราะไขมัน ทรานส์มาจากไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันทรานส์นี้ เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วจะไปทำให้โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกายสูงขึ้น และไปทำให้ไขมันชนิดดีในร่างกาย (HDL) ต่ำลง จึงจัดเป็นไขมันที่มีผลเสียต่อร่างกายสองเด้งเลยทีเดียว
ไขมัน HDL
HDL คือ ไลโปโปรตีนโคเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นสูง มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนมาก-ไขมันน้อย มันช่วยลำเลียงไขมันจากผนังเส้นเลือดกลับไปที่ตับ
ไขมัน HDL สามารถเพิ่มได้ด้วยการทานอาหารดังนี้
หอม กระเทียม น้ำมันปลา ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอล ซาร์ดี ทูน่า แมกเคอเรล ในรูปแบบของปลากระป๋องก็ได้ เต้าหู้ และผลิตภัณฑ์จากเต้าหู หอยลาย หอยแครง หอยแมลงภู่
HDL เป็นไขมันชนิดดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือจะมีหน้าที่เคลื่อนย้ายไขมันที่เป็นอันตราย เช่น LDL ออกไปจากผนังหลอดเลือดและน้ำเลือด ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ถ้ามีปริมาณสูงถือว่าดี ถ้ามีในปริมาณต่ำจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมวิชาการเกษตร
ขอขคุณข้อมูล หนัสือสมุนไพรน่ารู้ จัดพิมพ์โดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
สถาบันวิจัย สมุนไพร กรทวิทยาศาสตร์ การแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข ISBN 974-7549-68-3
บทความอ้างอิง งานวิจัยเจียวกู้หลานกับหัวใจและหลอดเลือด
เจียวกู้หลานป่าหรือเจียวกู้หลานจากธรรมชาติ
เพื่อให้การใช้เจียวกู้หลานป่าสมุนไพรจากเชียงใหม่ให้ได้ผลสูงสุด ขอนำเสนอบทความจากงานวิจัยของสถาบันสมุนไพรแห่งชาติ ที่ได้ใช้เจียวกู้หลานธรรมชาติหรือเจียวกู้หลานป่าเป็นหลักในการวิจัยจึงได้ผลออกมาตามที่ได้และได้เผยแพร่สู่สาธารณะทั่วๆ ไป
ไขมัน สารอาหารประเภทไขมัน เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยกรดไขมันและกลีเซอรอล พบมากในไขมันจากพืช มันสัตว์ นม เนย ถั่ว กรดไขมันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1.1 กรดไขมันอิ่มตัว เป็นไขมันที่พบมากในเนื้อสัตว์ มันสัตว์ หนังสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง กุ้ง ปู นม และผลิตภัณฑ์จากนม ไขมันประเภทนี้ หากมีมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
1.2 กรดไขมันไม่อิ่มตัว เป็นไขมันที่พบมากในถั่ว เต้าหู้ เห็ด น้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม) ช่วยลดการดูดซึมไขมันอิ่มตัว ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน
ไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี สารอาหารประเภทไขมันช่วยให้อาหารมีรส กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ช่วยในการดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี และ เค ไขมันที่มีมากเกินความต้องการของร่างกายจะถูกสะสมเป็นชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยป้องกันการกระทบกระเทือนของอวัยวะภายใน ป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกายไขมันในเลือดสูงหมายถึงร่างกายเรามีไขมันในกระแสเลือดสูง ไขมันที่สูงจะเป็น cholesterol หรือ Triglyceride ก็ได้ ไขมันสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคอัมพาต เนื่องจากไขมันสูงจะตกตะกอนที่ผิวของผนังหลอดเลือดที่เรียกว่าคราบไขมันหรือ Plaque ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดตีบ หรืออาจจะหลุดลอยไปอุดหลอดเลือดทำให้เกิดโรค
ค่าปกติของไขมันอยู่ระหว่าง 140 and 200 mg/d ทางการแพทย์จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับไขมัน Total Chloresterol และ LDL Choresterol และไขมัน HDL Cholesterol เนื่อวจากภาวะทั้งสองสามารถควบคุมโดยการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่การเกิดหลอดเลือดแข็งจะดกิดเร็วหากมีภาวะไขมันผิดปกติดังนี้
ค่าปกติของไขมันในเลือด (Total cholesterol levels)
ระดับที่ต้องการ: ต่ำกว่า 200 mg/dL
สูงปานกลาง: 200 - 239 mg/dL
สูง: มากกว่า 240 mg/dL
LDL cholesterol levels:
ระดับที่ต้องการสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีความเสี่ยงสูง: ต่ำกว่า 70 mg/dL
ระดับที่ต้องการ for people at risk of heart disease: ต่ำกว่า 100
ระดับที่ต้องการ: 100 - 129
สูงปานกลาง: 130 - 159
สูง: 160 - 189
HDL cholesterol levels:
ผลไม่ดี: ต่ำกว่า 40 mg/dL
ค่าที่ยอมรับได้: 40 - 59
ระดับที่ต้องการ: 60 หรือ สูงกว่า
Triglyceride levels:
ระดับที่ต้องการ: ต่ำกว่า 150 mg/dL
สูงปานกลาง: 150 - 199
สูง:สูงกว่า 200
ผู้ใหญ่ที่ค่าไขมันปกติควรจะตรวจซ้ำทุก 5 ปี หากไขมันในเลือดสูงควรตรวจซ้ำอีก 2-6 เดือน
LDL เป็นไขมันชนิดไม่ดี ชนิดที่เป็นปัญหาคือ อ็อกซิได LDL และ LDLชนิดเล็ก
เพราะว่าระดับ LDL ในเลือด มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมัน LDL ทำหน้าที่เป็นตัวนำโคเลสเตอรอลทั้งหลายออกจากตับเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อเซลล์เลือกใช้โคเลสเตอรอลที่ต้องการไปแล้ว โคเลสเตอรอลที่เหลืออยู่ในกระแสเลือดก็จะพอกเป็นตุ่มอยู่ที่ผนังของหลอด เลือดทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ นานไปตุ่มเหล่านี้ปริแตกออกทำให้มีลิ่มเลือดเข้ามาผสมโรงพอกจนอุดตันหลอด เลือด ผลตามมาคืออวัยวะสำคัญที่ต้องอาศัยเลือดจากหลอดเลือดเช่นหัวใจ สมอง ไต เกิดขาดเลือดไปเลี้ยง กลายเป็นโรคเช่น หัวใจขาดเลือด อัมพาตอัมพฤกษ์ ความดันเลือดสูง ไตวาย เป็นต้น
LDL มาจากไหน
อาหารที่เพิ่ม LDL แบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ อาหารจำพวกไขมันอิ่มตัว (saturated fat) หมายถึงไขมันจาก เนื้อสัตว์ต่างๆ ยกเว้นเนื้อปลา ไข่ นมโฮลมิลค์ เนย ชีส ไอศกรีม เค้ก คุ้กกี้ น้ำสลัดสำเร็จรูป พืชสกุลปาลม์เช่น น้ำมันปาลม์ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้นการเป็นไขมันอิ่มตัว เป็นคนละประเด็นกับการเป็นโคเลสเตอรอลหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นน้ำมันปาลม์ น้ำมันมะพร้าว ไม่ใช่โคเลสเตอรอล และไม่มีส่วนประกอบที่เป็นโคเลสเตอรอล เพราะพืชทุกชนิดไม่มีโคเลสเตอรอล แต่น้ำมันปาลม์และน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัว เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วก็มีผลเพิ่ม LDL ในเลือดเช่นเดียวกับไขมันอิ่มตัวจาก เนื้อ หมู ไก่ เช่นกัน เนื่องจากไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย กฎหมายจึงบังคับให้ฉลากอาหารบอกว่ามีไขมันอิ่มตัวเป็นส่วนประกอบอยู่ในอาหาร นั้นเท่าไร
อาหารจำพวกไขมันทรานส์ (trans fat) เป็นไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat)
เป็นไขมันชนิดหนึ่งโดยทั่วไป ไขมันไม่อิ่มตัว เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำ น้ำมันมะกอก เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่ในอุตสาหกรรมอาหารบางอย่างได้มีการเปลี่ยนเอาไขมันไม่อิ่มทั่วไปให้กลาย เป็นไขมันทรานส์ เพื่อให้มีคุณสมบัติแข็งเป็นไข จะได้เอาไปทำเนยเทียมหรือเอาไปเคลือบอาหารสำเร็จรูปได้ง่ายขึ้น อาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ได้แก่ ขนมอบ หรือเบเกอรีที่มีมาการีนเป็นส่วนประกอบ ครีมเทียม คอฟฟี่เมท อาหารอบ อาหารทอด ขนมกรุบกรอบต่างๆ เป็นต้นปัจจุบันนี้ในยุโรปและอเมริการมีกฎหมายบังคับให้บอกที่ฉลากว่าอาหารนั้นมีไข มันทรานส์อยู่เท่าใด แต่เมืองไทยยังไม่มีกฎหมายนี้ กฎหมายไทยบังคับให้บอกเฉพาะไขมันอิ่มตัว ดังนั้นเมื่ออ่านฉลากอาหารที่มีไขมันทรานส์จะไม่เจอคำเตือนใดๆเพราะไขมัน ทรานส์มาจากไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันทรานส์นี้ เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วจะไปทำให้โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกายสูงขึ้น และไปทำให้ไขมันชนิดดีในร่างกาย (HDL) ต่ำลง จึงจัดเป็นไขมันที่มีผลเสียต่อร่างกายสองเด้งเลยทีเดียว
ไขมัน HDL
HDL คือ ไลโปโปรตีนโคเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นสูง มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนมาก-ไขมันน้อย มันช่วยลำเลียงไขมันจากผนังเส้นเลือดกลับไปที่ตับ
ไขมัน HDL สามารถเพิ่มได้ด้วยการทานอาหารดังนี้
หอม กระเทียม น้ำมันปลา ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอล ซาร์ดี ทูน่า แมกเคอเรล ในรูปแบบของปลากระป๋องก็ได้ เต้าหู้ และผลิตภัณฑ์จากเต้าหู หอยลาย หอยแครง หอยแมลงภู่
HDL เป็นไขมันชนิดดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือจะมีหน้าที่เคลื่อนย้ายไขมันที่เป็นอันตราย เช่น LDL ออกไปจากผนังหลอดเลือดและน้ำเลือด ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ถ้ามีปริมาณสูงถือว่าดี ถ้ามีในปริมาณต่ำจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมวิชาการเกษตร
ขอขคุณข้อมูล หนัสือสมุนไพรน่ารู้ จัดพิมพ์โดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
สถาบันวิจัย สมุนไพร กรทวิทยาศาสตร์ การแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข ISBN 974-7549-68-3
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น